1. เช็กราคาและซื้อล่วงหน้านานๆ
บางครั้งการซื้อตั๋วล่วงหน้านานๆ อาจจะมีโปรโมชั่นต่างๆ มาล่อตาล่อใจ อย่าง Airasia ก็จะมีซื้อตั๋วปีนี้ เที่ยวปีหน้า หรือสะสมแต้มแลกคะแนน เป็นต้น ให้เช็กหลายๆ รอบจนมั่นใจว่านี่คือราคาที่ดีที่สุดแล้วจัดการซื้อเลยค่ะ
2. ซื้อตั๋วรถไฟและเครื่องบินล่วงหน้า
ให้ซื้อตั๋วรถไฟและเครื่องบินล่วงหน้า เพราะถ้าซื้อแบบกะทันหันราคาจะสูงขึ้นมาก ยิ่งใกล้วันเดินทางยิ่งสูงนะคะ โดยเช็กจาก Skyscanner ก็ได้ค่ะ และหากเราจะเที่ยวหลายที่ ควรซื้อแบบเป็นพาสค่ะ ส่วนช่วงเวลาในการซื้อตั๋วเครื่องบิน ถ้าเดินทางประเทศควรซื้อล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ เที่ยวต่างประเทศควรซื้อล่วงหน้า 5-6 เดือน ส่วนโรงแรมให้จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ (ยิ่งจองใกล้วันเข้าพักยิ่งราคาสูง) หรืออาจจะใช้วิธีซื้อตั๋วเครื่องบิน+ที่พัก แบบนี้ก็ได้ราคาถูกค่ะ
3. ไปเที่ยวช่วง off-season
ไปเที่ยวช่วง off-season หรือใกล้จะหมดวันฤดูกาลแล้ว อย่างเช่น เที่ยวช่วง summer ก็ให้ไปตอนใกล้จะเปลี่ยนฤดู เพราะนักท่องเที่ยวเริ่มไม่เยอะแล้ว การเดินทางก็สะดวกกว่า ไม่ต้องแย่งกันขึ้นรถ แถมค่าที่พักก็ถูกกว่าช่วงต้นฤดูกาลที่คนนิยมเที่ยวด้วย
ทั้งเว็บและแอปนี้จะช่วยให้เราเปรียบเทียบราคาตั๋วหรือที่พักได้โดยตรง เราจะรู้ว่าซื้อตั๋วจากที่ไหนราคาจะถูกสุด เช่น เว็บ wanderu ช่วยเช็กราคาที่ดีที่สุดของตั๋วรถบัสหรือรถไฟ ส่วน Bunny Hopper ช่วยเช็กราคาที่ดีที่สุดของตั๋วเครื่องบินและโรงแรมค่ะ
5. แพ็กของให้น้ำหนักน้อยๆ
ให้แพ็กของที่เบาๆ และใช้ประโยชน์ได้สูงสุด จะได้ถือขึ้นเครื่องได้ (ประหยัดค่าโหลดกระเป๋าไปอีก) ที่สำคัญ ต้องเช็กไกด์ไลน์ของแต่ละสายการบินก่อนเสมอว่าให้น้ำหนักกระเป๋าถือขึ้นได้เท่าไหร่ เพื่อสิทธิประโยชน์สูงสุดของตัวเรา ถ้าไม่ได้เที่ยวในประเทศที่เน้นช้อปปิ้ง ไม่ควรลากกระเป๋าใบใหญ่ไปเยอะนะคะ
6. พักที่ Airbnb หรือ hostel
การที่เลือกพัก Airbnb เพราะจะทำให้ได้ซึมซับบรรยากาศแบบท้องถิ่น หรือการพักที่ hostel เพราะจะได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ ได้ประสบการณ์การใหม่ๆ และยังราคาถูก ส่วนใครที่ชอบความสะดวกสบาย แนะนำเป็นโรงแรมดีกว่านะคะ มีหลายโรงแรมที่ราคาถูก แต่อาจจะไกลสถานีรถไฟหน่อย ส่วนใครอยากจองโรงแรมใกล้สถานีก็จองล่วงหน้านานๆ นะคะ
7. ซื้อของกินจาก grocery store
ใครที่ไปเที่ยวนานๆ แนะนำให้ซื้อของกินจาก grocery store หรือ convenience store จะดีกว่าค่ะ ให้ซื้อเผื่อไว้สำหรับ 2 วันเลย เพราะการออกไปกินข้าวร้านอาหารหรูๆ ทุกวัน อาจทำให้สถานะทางการเงินล้มละลายได้ ><
8. เลือกกินอาหารเช้าฟรีที่โรงแรม
หลายโรงแรมที่เราพักจะมีบริการอาหารเช้าฟรี ให้เรากินที่โรงแรมได้เลย จะได้มีแรงเที่ยว (และประหยัดไปอีก 1 มื้อ แฮ่) นอกจากนี้อาจจะหยิบขนมปังหรือผลไม้เล็กๆ น้อยๆ มาเผื่อกินระหว่างวันได้อีกด้วย (อย่าหยิบเยอะเกินไปนะคะ เอาสักชิ้นก็พอค่าาา 555)
9. ไม่ต้องกินให้ครบ 3 มื้อก็ได้
ปกติเราจะต้องกกินอาหารให้ครบ 3 มื้อใช่ไหมคะ ถ้าอยากประหยัด ไม่ควรกินให้ครบถึง 3 มื้อก็ได้ เพราะลำบากต่อกระเป๋าสตางค์มาก ตอนเช้าให้เรากินเยอะๆ ไปเลย กลางวันกินหรือขนมปังที่เอามาจากโรงแรม และกินอีกทีตอนเย็น (วิธีของเราคือ ตอนเช้ากินให้เต็มที่ กลางวันอาจจะกินร้านที่ไม่แพงมาก ตอนเย็นซื้อจาก grocery store หรือบางวันตอนเช้ากินอะไรเล็กน้อยๆ ไปกินเต็มที่ช่วงบ่ายให้คาบเกี่ยวข้าวเย็นไปเลย)
10. สำรวจสถานที่เที่ยวและวางแผนก่อนเสมอ
เวลาไปเที่ยว เราต้องอยากเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ อยู่แล้ว แต่ให้สำรวจก่อนว่ามีที่ไหนฟรีหรือเสียเงินค่าเข้าบ้าง หรือพวกพิพิธภัณฑ์จะมีวันและเวลาที่เปิดให้เข้าชมฟรี (ให้ไปตอนนั้นนะคะ) หรืออาจจะใช้คูปองส่วนลดให้คุ้มค่า นอกจากนี้ ควรเช็กเวลาเปิดปิดของสถานที่เที่ยวให้ดี ไม่งั้นไปเสียเที่ยวแน่ๆ ค่ะ
11. ถามหาสถานที่ท่องเที่ยวจากคนท้องถิ่น
บางครั้งเราอาจจะอยากเที่ยวนอกเหนือจากสถานที่สำคัญสุดฮิตบ้าง ให้ลองถามคนท้องถิ่นดูว่าเค้าไปที่ไหนกัน ไปกินอะไร ไปดูอะไร มีที่ไหนที่นักท่องเที่ยวยังไม่รู้บ้าง เพราะบางครั้งสถานที่เที่ยวของนักท่องเที่ยวกับคนท้องถิ่นต่างกันมากเลยค่ะ และเราจะได้รับประสบการณ์ที่ต่างจากนักท่องเที่ยวคนอื่นอีกด้วย
นี่คือเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่นำมาฝากกันนะคะ แต่อย่าลืมว่า การมาเที่ยว ไม่ควรประหยัดมากจนไป อาจจะทำให้ไม่สนุกได้ค่ะ ^^ ถ้าเงินเหลือ อยากกินอะไร อยากไปเที่ยวที่ไหน ให้ทำเลยนะคะ (ไม่งั้นจะเสียดายทีหลัง) เพราะทุกอย่างคือประสบการณ์ของเราค่ะ
Iceallaround 